5 เหตุผลที่ขอสินเชื่อกู้บ้าน (Home loan) ไม่ผ่าน

พฤศจิกายน 17, 2024

-

adisorn kaewchansilp

/
/
5 เหตุผลที่ขอสินเชื่อกู้บ้าน (Home loan) ไม่ผ่าน
5 เหตุผลที่ขอสินเชื่อกู้บ้าน

เจอรถ เจอบ้านที่ถูกใจ แน่นอนว่าส่วนใหญ่มักมองหาการทำสินเชื่อกู้ซื้อ เพื่อให้คุณสามารถนำเงินเก็บ เงินก้อนที่มีมาใช้ในการหมุนเวียนธุรกิจ การใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อกู้บ้านนั้น ก็ต้องบอกเลยว่า ไม่ได้ง่ายเหมือนแต่ก่อนแล้วล่ะ

เงื่อนไขการขอสินเชื่อกู้บ้านจากธนาคารต่างๆ เกณฑ์หลักๆ เลยนั่นก็คือ การมีแหล่งที่มารายได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นพนักงานประจำ ฟรีแลนซ์ เจ้าของธุรกิจ โดยนอกจากนี้ การแสดงสเตจเม้นท์ บัญชีเงินเข้า-ออก อย่างชี้แจงได้ การที่มีเงินเก็บ ยอดคงเหลือในบัญชี และที่สำคัญ ควรเป็นผู้ (เคย) ขอสินเชื่ออื่นๆ เพื่อให้เห็นพฤติกรรม วินัยการผ่อนชำระ ที่เราเรียกกันว่า “เครดิตบูโร” นั่นเอง

เครดิตบูโร จริงๆ แล้วไม่ได้หมายถึงผู้ที่มีประวัติแบ็คลิสต์ แต่หมายถึงรายการ ประวัติการชำระหนี้ที่ผ่านมา โดยธนาคารจะขอดูข้อมูลนี้จากหน่วยงานข้อมูลเครดิตแห่งชาติเพื่อนำมาประกอบการพิจารณา เครดิตบูโรเป็นเพียงส่วนหนึ่งในการพิจารณาเท่านั้น จะไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่าคุณจะผ่านหรือไม่ผ่านเกณฑ์อนุมัติของสินเชื่อกู้บ้านหรือไม่

กู้สินเชื่อบ้าน (Home Loan) ไม่ผ่านดูจากอะไร

1. ประวัติเครดิตบูโร

ที่แสดงการผ่อนชำระค่างวดต่างๆ ไม่ตรงตามกำหนด มียอดค้างชำระ ผิดนัดชำระ แบบนี้ก็มีโอกาสและความเสี่ยงสูงที่ธนาคารจะไม่อนุมัติ เนื่องจากประวัตินี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการผ่อนชำระหนี้อันมีโอกาสที่จะไม่ผ่อนชำระสินเชื่อกู้บ้านได้เช่นกัน ใครที่กำลังมีภาระหนี้ ไม่ว่าจะเป็น บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อมอเตอร์ไซค์ หรืออื่นๆ อยู่ ลองเช็คประวัติให้ดี หากมียอดค้างชำระ ควรรีบชำระให้เรียบร้อยก่อนที่จะยื่นขอกู้สินเชื่อบ้าน 

2. เอกสารไม่ครบ เช่น

  • ทั้งเอกสารแสดงแหล่งที่มารายได้ เอกสารการเสียภาษี (กรณีฟรีแลนซ์ หรือเจ้าของกิจการ) 
  • สำเนาต่างๆ เช่น สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาสมุดบัญชีเงินฝาก สำเนาทะเบียนสมรส / สำเนาทะเบียนหย่า 
  • หนังสือรับรองเงินเดือน สลิปเงินเดือน หนังสือจดทะเบียนบริษัท/ห้างหุ้นส่วน บัญชีบริษัท บัญชีราชื่อผู้ถือหุ้น ฯลฯ

3. มีภาระหนี้สินในระบบเกินกว่ารายได้

การที่ธนาคารจะอนุมัติสินเชื่อ แน่นอนว่า เกณฑ์สำคัญในการพิจารณานั่นก็คือ รายจ่ายกับรายได้ที่สมดุลกัน และแน่นอน คุณเองจำเป็นต้องมีเงินเหลือไว้ใช้ในชีวิตประจำวันด้วย โดยมากธนาคารจะกำหนดสัดส่วนภาระหนี้สินต่อรายได้ ความสามารถในการผ่อนชำระ 40-70% ต่อรายได้ และค่าใช้จ่ายส่วนตัวแต่ละเดือนจะคำนวนอยู่ที่ 30% โดยหากคำนวนแล้ว การเงินของคุณตึงเกินไปหรือติดลบแล้วล่ะก็ .. แบบนี้ธนาคารก็มีโอกาสที่จะไม่อนุมัติสินเชื่อเช่นเดียวกัน

นั่นหมายความคุณจะมีเงินเหลือใช้เพียง 7,000 บาท ดังนั้น โอกาสที่จะอนุมัติก็ค่อนข้างยาก เว้นเสียแต่ว่าคุณจะทำการปิดยอดหนี้ (บางส่วน) หรือทั้งหมดเสียก่อนแล้วจึงค่อยยื่นกู้สินเชื่อบ้าน เพื่อเป็นการลดภาระหนี้ก่อนกู้ยืมก้อนใหม่นั่นเอง 

4. ไม่เคยมีประวัติขอสินเชื่อ

ใครคิดว่า ไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ ซึ่งแท้จริงแล้วก็ไม่ได้ผิดอะไร เพียงแต่ว่า ธนาคารอาจมองไม่เห็นความสามารถในการพิจารณาอนุมัติตามเงื่อนไข วินัยการผ่อนชำระต่างๆ ซึ่งการที่คุณเคยมีการขอสินเชื่อหรือบัตรเครดิตสักใบ จึงเป็นการดีกว่าที่ไม่เคยมีประวัติขอสินเชื่อใดๆ เลย นั่นหมายความว่า ธนาคารจะมองว่า อย่างน้อยคุณก็มีประวัติให้ตรวจสอบได้ หรือ อาจใช้เป็นใบชำระค่างวดโทรศัพท์ ค่าน้ำ ค่าไฟ (ที่เป็นชื่อตัวเอง) แบบนี้ก็อาจจะพอใช้เป็นเอกสารพิจารณาได้ แต่ควรปรึกษาเจ้าหน้าที่ที่ดูแลในส่วนนี้ก่อนด้วยนะ

5. ผู้ค้ำประกันมีประวัติติดบูโร

การที่มีผู้คำ้ประกัน ช่วยให้โอกาสในการกู้สินเชื่อบ้านผ่านได้ง่าย แต่นั่นหมายความว่า ผู้ค้ำควรมีประวัติการผ่อนชำระที่ดีด้วยเช่นกัน หากผู้ค้ำ ไม่มีงานทำ รายได้น้อย หรือมีประวัติติดเครดิตบูโร แบบนี้ ธนาคารก็จะมองว่า ผู้ค้ำไม่มีประสิทธิภาพเท่าใดนัก โอกาสการพิจารณาก็จะถูกลดลงด้วยเช่นกัน ดังนั้นหากมีผู้ค้ำ ควรเป็นผู้ที่มีประวัติการเงินที่ดีหน้าที่การงานมั่นคง เช่นกัน

ติดบูโรซื้อบ้านได้ไหม เกณฑ์พิจารณาสินเชื่อบ้าน (Internal link)

รู้ได้อย่างไรว่าติดเครดิตบูโร

ปัจจุบัน สามารถทำการตรวจสอบเครดิตบูโรได้ง่าย ผ่านทางแอปพลิเคชั่นธนาคารต่างๆ หรือ แอปพลิเคชั่น ThaID สะดวก รวดเร็วและรู้ผลในไม่กี่วัน เมื่อตรวจสอบประวัติแล้วพบว่า คุณมีประวัติตรงไหนที่ไม่เป็นความจริง ก็สามารถโต้แย้งหรือตรวจสอบกับทางสถาบันการเงินนั้นๆ ก่อนได้ ซึ่งการตรวจสอบประวัติเครดิตบูโร ก่อนการขอสินเชื่อกู้บ้าน ก็จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่า คุณมีโอกาสที่จะกู้ผ่านนั่นเอง

เครดิตบูโรแบบไหนที่มีโอกาสกู้ไม่ผ่าน

ผู้ที่มีภาระหนี้สินมากเกินกว่ารายได้ มีประวัติผิดชำระหนี้บ่อยครั้ง มีประวัติการเบี้ยวชำระหนี้ และรวมถึงมีประวัติการค้างชำระหนี้ระยะเวลานานโดยยังไม่ทำการปิดยอดหนี้

ทำยังไงจึงจะกู้ธนาคารให้ผ่านได้

อยากกู้ธนาคารให้ผ่าน เพื่อให้ได้ครอบครองบ้านที่ถูกใจ เตรียมตัวได้ง่ายๆ ด้วยวิธีเหล่านี้ 

  1. พิจารณารายรับ รายจ่ายและเงินเหลือในบัญชีให้ดี ไม่ให้มีภาระหนี้เกินตัว เกินรายได้ 
  2. หมั่นเดินบัญชี แยกบัญชีใช้จ่าย บัญชีเงินฝากประจำ และทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย เพื่อสามารถแจกจ่ายได้อย่างถูกต้อง 
  3. มีวินัยในการผ่อนชำระค่างวดต่างๆ ให้ตรง ไม่ค้างหนี้ ไม่ผ่อนผัน ไม่จ่ายล่าช้า 
  4. เตรียมเอกสารการเงินสำหรับการกู้ให้พร้อม ยิ่งเอกสารครบมากเท่าไหร่ ธนาคารยิ่งพิจารณาเร็วขึ้นเช่นกัน